มา…ได้เวลามาพิสูจน์กับอีกหนึ่งมัลติเวิร์สที่มีเสียงเลื่องลือมากมายเสียเหลือเกิน ใคร ๆ ก็บอกว่าดีเลิศหนักหนาอะไรจะขนาดนั้นกับหนังแอคชั่นผสมผสานความตลกร้าย “Everything Everywhere All at Once” หรือที่มีชื่อไทยเท่ ๆ ว่า “ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส” ที่คว้าตัวนักแสดงเชื้อสายเอเชียตัวแม่ อย่าง “มิเชล โหย่ว” มาวาดลีลาลวดลายแอคติ้งชั้นครูออกมาให้ฝรั่งได้เห็นกันอย่างเต็มตา และบัดนี้เราก็ได้เห็นกับสายตาตัวเองแล้ว และผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นก็…ไม่เกินราคาคุยนะ
Everything Everywhere All at Once ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส ว่าด้วยชีวิตของ เอเวอลีน หวัง หญิงชาวจีนที่ต้องแบกรับภาระทุกอย่างภายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจร้านซักแห้งที่ขาดทุนมานานหลายปี, ชีวิตคู่กับสามีที่แสนจืดชืด, ความสัมพันธ์กับลูกสาวที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน และการถูกกดดันจากผู้เป็นพ่อ กระทั่งวันหนึ่งเธอได้ค้นพบตัวตนที่อยู่ในหลากหลายชีวิต ณ พหุจักรวาล โดยแต่ละตัวตนต่างมีเป้าหมายในชีวิตแตกต่างกัน มีเส้นทางชีวิตที่เป็นทั้งคนดีและคนชั่ว และยังมีพลังที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป
แต่เมื่อการมาอยู่ในโลกประหลาดนี้ได้ปรากฏศัตรูลึกลับที่หมายจะกำจัดตัวเธอในจักรภพอื่น ๆ ให้สิ้นซาก จนในที่สุด เอเวอลีนต้องยอมเผชิญหน้ากับสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายแท้จริง นั่นก็คือการเป็นที่สุดแห่งซือเจ๊มหาประลัยที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่เป็นความหวังหนึ่งเดียวในการกำราบภัยร้ายที่หวังจะมาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างทุกพหุจักรวาลให้ดับสิ้น
และแล้วทุกสิ่งอย่างก็สมคำร่ำลือจริง ๆ เพราะว่า Everything Everywhere All at Once เป็นหนังแอคชั่นบ้าดีเดือด ที่ทั้งบันเทิง เพลิดเพลิน ใส่ความตลกร้ายแกมเสียดสี พร้อมกับไอเดียสุดบรรเจิด และท่วงท่าฉากสตันท์ต่าง ๆ กลั่นกรองออกมาดี ซ้ำยังเหมือนตบหัวแล้วลูบหลังคนดูด้วยประเด็นดราม่าที่ทัชหัวใจคนเอเชียได้ถ่องแท้ กับการเป็นสายใยความผูกพันของครอบครัว ที่บ้าขนาดไหนก็เกือบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ในช่วงท้าย เรียกได้ว่า…เป็นหนังเรื่องเดียวที่มีครบจะทุกอรรถรสทีเดียว
ก่อนอื่นต้องลุกขึ้นยืนปรบมือให้กับคู่หูผู้กำกับ “แดเนียลส์” ที่ประกอบด้วย “แดเนียล ควาน” กับ “แดเนียล ไชเนิร์ต” พวกเขาได้บัญญัติไอเดียแสนบรรเจิดออกมาสู่โลกภาพยนตร์ยุคปัจจุบันได้อย่างเจิดจรัส ถ่ายทอดหนัง 2 ชั่วโมงนิด ๆ ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่หาจับตัวได้ยาก แนวคิดที่ไปได้สุดทาง การเล่าเรื่องที่ทำได้สุดอารมณ์ มันกลายเป็นความลงตัวอย่างน่าพิสดารและกลายมาเป็นหนังที่ชื่อว่า Everything Everywhere All at Once เรื่องนี้ ที่ทำให้เราหลงใหลและรักมันอย่างน่าประหลาดใจอยู่เหมือนกัน
เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้หลัก ๆ ต้องยกความดีความชอบให้กับบทหนังโดยแท้ คู่หูแดเนียลส์ถือได้ว่าสร้างบทหนังระดับมาสเตอร์พีชออกมาเลยก็ว่าได้ เป็นบทหนังที่เต็มไปด้วยความทับซ้อนเชิงทับซ้อนเข้าไปอีก การออกแบบแนวคิดของมัลติเวิร์สของพวกเขาช่างพิลึก แต่ก็เจ๋งมากในเวลาเดียวกัน และพวกเขาก็พยายามเล่าเรื่องที่เข้าใจได้ยากออกมาด้วยวิธีที่สามารถคล้อยตามไปได้ หากว่าผู้ชมมีพื้นฐานจากพวกการดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ต่าง ๆ มาบ้างแล้ว